中文 | ENG | ไทย

ver. 19.9.17

ข้อตกลงและเงื่อนไขของการใช้ ระบบบริการผู้ค้า (“เงื่อนไขบริการผู้ค้า”)

สิ่งที่แสดงไว้ด้านล่างต่อไปนี้คือเงื่อนไขของบริการผู้ค้าที่ควบคุมการใช้ระบบบริการผู้ค้า (“ระบบ”) ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท โอเพินไรซ์ กรุ๊ป อิงค์ และ/หรือบริษัทสาขา และ/หรือบริษัทในเครือของบริษัทดังกล่าว (ต่อไปเรียกรวมกันว่า “บริษัท” และตามที่บริบทกำหนดหรือนุญาต “บริษัท” อาจหมายถึงบริษัทใดๆ ในบริษัท โอเพินไรซ์ กรุ๊ป อิงค์ และ/หรือบริษัทสาขา และ/หรือบริษัทในเครือของบริษัทดังกล่าวที่พร้อมสำหรับคู่สัญญา (“ผู้ค้า”) ผู้ที่ได้ลงนามในสัญญา ใบเสนอราคา แบบฟอร์มจดทะเบียนหรือแบบฟอร์มใบสั่งบริการใดๆ (ต่อไปเรียกแยกหรือรวมกันว่า “ใบสั่งบริการ”) กับบริษัทสาขา หรือบริษัทในเครือใดๆ ของบริษัท โอเพินไรซ์ กรุ๊ป อิงค์ เพื่อใช้โมดูลใดๆ ของระบบ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องที่อัพโหลดโดยผู้ค้าที่ใช้ระบบจะได้รับการเผยแพร่บนเว็บไซต์ Openrice.com และ/หรือ โดเมนย่อยของเว็บไซต์ดังกล่าว (ต่อไปเรียกรวมหรือแยกกันว่า “เว็บไซต์”) แอพพลิเคชั่นมือถือ Openrice และเว็บเคลื่อนที่ (ต่อไปเรียกรวมหรือแยกกันว่า “แอพพลิเคชั่น”) และ/หรือแพลตฟอร์มของสื่อใดๆ ที่สนับสนุนโดยบริษัท (ต่อไปเรียกรวมหรือแยกกันว่า “แพลตฟอร์ม”) (เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น และแพลตฟอร์มอาจเรียกแยกหรือรวมกันว่า “ช่องทางสื่อสาร”) และ/หรือแพลตฟอร์มที่ดำเนินการโดยบุคคลที่สามใดๆ (“แพลตฟอร์มบุคคลที่สาม”) ซึ่งได้รับอนุญาตจากบริษัทให้แสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องนั้น และเกี่ยวเนื่องกับการจัดหาสื่อการตลาด ข้อเสนอ หนังสือรับรอง การจองโต๊ะ การจัดคิวออนไลน์ และ/หรือบริการอื่นใดซึ่งทำให้พร้อมผ่านช่องทางสื่อสารหรือแพลตฟอร์มบุคคลที่สามสำหรับใช้โดยผู้ใช้ทั่วไป (“ผู้ใช้”) ของช่องทางสื่อสาร หรือผู้ใช้แพลตฟอร์มบุคคลที่สาม บริษัทสงวนสิทธิในการแก้ไขเงื่อนไขของบริการผู้ค้าเป็นครั้งเป็นคราวโดยการโพสต์ฉบับแก้ไขบนช่องทางสื่อสาร ทันทีที่โพสต์บนช่องทางสื่อสาร เงื่อนไขที่แก้ไขของบริการผู้ค้าจะต้องมีผลบังคับใช้ การใช้ช่องทางสื่อสารอย่างต่อเนื่องของผู้ค้าหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขบริการผู้ค้าซึ่งทำให้เกิดการยอมรับของผู้ค้าต่อเงื่อนไขที่แก้ไขของบริการผู้ค้า

การให้สิทธิแบบไม่ผูกขาด และสามารถเพิกถอนได้ ทางบริษัทไม่อนุญาตให้ทำการโอนย้ายข้อมูลจากการใช้โปรแกรมซอฟต์แวร์ ในการทำงาน การประมวลผลและเทคโนโลยีของหลักเกณฑ์ต่างๆ ของระบบ พร้อมกับการบริการและวัสดุที่เกี่ยวข้องต่างๆ ในทุกกรณี ซึ่งบริษัทได้ทำให้ทุกสิ่งเป็นที่พร้อมใช้ ซึ่งได้เรียกว่า “บริการผู้ค้า”

การให้บริการผู้ค้าใดๆ ที่ผู้ค้าได้รับทราบและตกลงว่า ตนได้ยอมรับด้วยเงื่อนไขของการบริการผู้ค้าเหล่านี้ ข้อตกลงและเงื่อนไข [ข้อตกลงและเงื่อนไข] และข้อตกลงและเงื่อนไขของการบริการ (ต่อไปเรียกรวมกันว่า “สัญญา”) ในกรณีที่มีความขัดแย้งใดๆ ในเงื่อนไขของเอกสารดังกล่าวรวมทั้ง ข้อตกลงและเงื่อนไขของการบริการผู้ค้าจะต้องเหนือกว่าเงื่อนไขอื่นใด และเงื่อนไขของการให้บริการผู้ค้าจะต้องเหนือกว่าข้อตกลงและเงื่อนไขทั้งหมดด้วย

บริษัทอาจเสนอคุณสมบัติและการทำงานเพิ่มเติมสำหรับผู้ค้า (“วิธีการเพิ่มเติม”) ผ่านระบบ การใช้วิธีการเพิ่มเติมจะอยู่ภายใต้สัญญา (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เงื่อนไขของบริการผู้ค้า) และอาจกำหนดให้ผู้ค้าทำการตกลงเกี่ยวกับข้อตกลงและเงื่อนไขเพิ่มเติมโดยเฉพาะกับโซลูชั่นเพิ่มเติม ซึ่งอาจถูกรวมอยู่ในสัญญา

สิทธิของผู้ค้าและร้านอาหารที่เข้าร่วม (ร้านอาหารที่เข้าร่วม) (ตามที่นิยามไว้ในการให้การบริการ)

เพื่อให้การบริการต่อผู้ค้าใดๆ ตามที่ระบุไว้ในใบให้บริการ ซึ่งไม่ผูกขาด สามารถเพิกถอนได้ และไม่อนุญาตให้ปรับช่วงเวลาและโอนไม่ได้ มีผลตั้งแต่วันที่กำหนดไว้ในใบการให้บริการ และจะสิ้นสุดลงตามที่ได้ระบุไว้ในวันหมดอายุของช่วงเวลาตามการบริการที่กำหนดไว้หรือเมื่อสิ้นสุดสัญญาตามเงื่อนไขในที่นี้ แล้วแต่ว่าสิ่งใดจะเกิดก่อน (“ระยะเวลาสัญญา”)

  1. การให้บริการผู้ค้า
    1. บริการผู้ค้าที่ให้โดยบริษัทจะต้องถูกใช้เฉพาะโดยผู้ค้าและร้านอาหารที่เข้าร่วม (Participating Restaurant) ใน ระหว่างระยะเวลาสัญญา
    2. ผู้ค้ารับประกันว่า ตนจะปฏิบัติตาม และจะต้องทำให้ร้านอาหารที่เข้าร่วม (ร้านอาหารที่เข้าร่วม) (รวมถึง ผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาต (ตามที่กำหนดไว้ในใบให้บริการ) ลูกจ้าง ตัวแทนและผู้รับเหมา (เรียกรวมกันว่า “บุคคลที่เกี่ยวข้อง”)) ให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญา ผู้ค้าจะต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่สำหรับการละเมิดเงื่อนไขใดๆ ของสัญญาโดยร้านอาหารที่เข้าร่วม (Participating Restaurant) หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง
    3. ผู้ค้าตกลงว่า บริษัทจะต้องมีสิทธิโดยเด็ดขาดในการเป็นตัวแทน แก้ไขดัดแปลง เพิ่มเติมหรือปรับปรุงบางส่วนหรือทั้งหมดของ ส่วนประกอบและหลักเกณฑ์ของระบบเมื่อใดก็ตามด้วยดุลยพินิจของทางบริษัทโดยไม่ต้องแจ้งให้ผู้ค้าทราบ และผู้ค้าจะไม่มีสิทธิในการคัดค้านการแก้ไข ดัดแปลง เพิ่มเติมหรือปรับปรุงที่ทำกับระบบ โดยมีเงื่อนไขว่า
      1. (ก) บริษัทจะทำการแจ้งให้ทราบอย่างสมเหตุสมผลแก่ผู้ค้าถึงการเปลี่ยนแปลงใดๆ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการใช้ระบบปกติได้ และ
      2. (ข) การแก้ไข เพิ่มเติมหรือดัดแปลง นั้นจะไม่ตัดสิทธิผู้ค้าจากคุณสมบัติและการทำงานมาตรฐานของระบบ ณ วันที่เริ่มใช้หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องของระบบ
    4. บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างสมเหตุสมผลเพื่อรับประกันว่า ได้รักษาสมรรถนะที่เพียงพอสำหรับอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์เพื่อทำให้
      1. (ก) ร้านอาหารที่เข้าร่วม (ร้านอาหารที่เข้าร่วม) สามารถใช้และเข้าถึงระบบได้ และ
      2. (ข) ผู้ใช้ช่องทางสื่อสารสามารถเข้าถึงช่องทางสื่อสาร
    5. บริษัทอาจทำการต่อไปนี้ด้วยดุลพินิจของบริษัทแต่ฝ่ายเดียวในระหว่างช่วงเวลาใดๆ
      1. (ก) การดำเนินการบำรุงรักษาตามตารางกำหนดและบำรุงรักษาที่ไม่ได้กำหนดช่วงเวลาไว้ของระบบ และช่องทางสื่อสาร และ
      2. (ข) การจัดหาและดำเนินการสำรองข้อมูลประจำวันที่รวบรวมและรักษาโดยบริษัทเฉพาะสำหรับผู้ค้า (“ฐานข้อมูล”)
  2. สิ่งอำนวยความสะดวกของผู้ค้า
    1. ผู้ค้าจะต้องรับผิดชอบแต่ฝ่ายเดียวสำหรับการจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกภายในของร้านอาหารที่เข้าร่วม (การเข้าร่วมของผู้ค้า) (รวมถึงการไม่จำกัดการเข้าถึงระบบของคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์คลื่อนที่ ซอฟต์แวร์ โมเด็มและการเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ต สิ่งอำนวยความสะดวกโทรคมนาคม และฮาร์ดแวร์) (ต่อไปเรียกรวมกันว่า “การเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวก”) ที่จำเป็นในการใช้ประโยชน์การบริการผู้ค้าที่เกี่ยวข้องต่อหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องของระบบ
    2. บริษัทจะไม่ยอมรับความรับผิดชอบใดๆ ที่เกิดจากการขาดสติสัมปชัญญะหรือการทำงานบกพร่องหรือการบำรุงรักษาสิ่ง อำนวยความสะดวกในการเข้าถึงของผู้ค้า
  3. ผู้แทนของผู้ค้า ข้อผูกมัดและความรับผิดชอบทั่วไป
    1. ผู้ค้ารับรองและรับประกันว่า (1) ตนเองป็นบริษัทอิสระที่ก่อตั้งอย่างถูกต้อง ดำเนินการอย่างถูกต้องและมีสถานะ ที่ดีภายใต้กฎหมายของขอบเขตอำนาจศาลของการจดทะเบียนบริษัท (2) ได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้องให้ประกอบธุรกิจในขอบเขตอำนาจศาลทั้งหมดซึ่งตนดำเนินธุรกิจ (3) มีอำนาจบริษัท และสิทธิทางกฎหมายในการบริหารและทำสัญญาและดำเนินธุรกรรมและข้อผูกมัดที่มุ่งหมายหลังจากนี้ (4) การทำสัญญาให้สมบูรณ์ของตนจะไม่ขัดแย้งกับเอกสารของบริษัทหรือทางกฎหมายหรือละเมิดกฎหมายที่บังคับใช้ใดๆ (5) ไม่มีการฟ้องร้อง กระบวนการทางกฎหมายหรือการสอบสวนในลักษณะใดๆ ที่ค้างอยู่หรือ เท่าที่ตนทราบ ที่คุกคามต่อหรือมีผลต่อตน ซึ่งจะถูกคาดการณ์ว่ามีผลกระทบในสาระสำคัญต่อความสามารถในการดำเนินการตามข้อผูกมัดภายใต้สัญญา และ (5) วัสดุใดๆ ที่จัดหาโดยผู้ค้าให้แก่บริษัทหรืออัพโหลดด้วยระบบและผลิตภัณหรือบริการใดๆ ที่ขายโดยผู้ค้าและร้านอาหารที่เข้าร่วม (การเข้าร่วมของผู้ค้า) ไม่ละเมิดสิทธิและประโยชน์ของบุคคลที่สามใดๆ
    2. ผู้ค้าจะแจ้งบริษัทโดยทันทีเกี่ยวกับการกระทำหรือเหตุการณ์ใดๆ ซึ่งตนทราบว่ามีผลกระทบต่อการทำการรับรอง หรือรับประกันที่ไม่แน่นอนของผู้ค้าดังแสดงไว้ในข้อ 3.1 ข้างต้น
    3. ผู้ค้าจะต้องรับประกันว่า ผู้ใช้บริการเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมอย่างเหมาะสมสามารถเข้าสู่ระบบ ได้ และผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตจะต้องใช้ระบบตามแนวปฏิบัติการใช้บริการตามที่อาจถูกจัดหาโดยบริษัทเป็นครั้งคราวในช่วงระยะเวลาสัญญา
    4. ผู้ค้าจะทำการรักษาข้อมูลรวมทั้งบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อให้รักษาความลับของชื่อผู้ใช้ (“ชื่อผู้ใช้”) และรหัสผ่าน (“รหัสผ่าน”) ที่กำหนดไว้ในการเข้าถึงระบบ
    5. ผู้ค้าจะต้องรับผิดชอบ การดำเนินการทั้งหมดเพียงผู้เดียว และการทำธุรกรรมใดๆซึ่งเกิดขึ้นภายใต้ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน
    6. ผู้ค้าจะต้องแจ้งแก่บริษัทโดยทันทีเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลใดๆ ในระบบเกี่ยวกับร้านอาหารที่เข้าร่วม (ร้านอาหารที่เข้าร่วม) และการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในรายละเอียดของคอร์ปแอดมิน (Corp Admin) (ตามที่กำหนดไว้ในใการบริการ) ตามเงื่อนไขของสัญญา
    7. ผู้ค้าและร้านอาหารที่เข้าร่วม (Participating Restaurant) จะต้องปฏิบัติตาม บทบัญญัติคำอธิบายประเภท การค้า (Trade Descriptions Ordinance) (ข้อ 362 แห่งกฎหมายฮ่องกง) และกฎหมายที่บังคับใช้อื่นใดเพื่อรับประกันว่า ข้อมูลเนื้อหาที่อัพโหลดไปยังระบบเป็นความจริง ถูกกฎหมาย ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน เที่ยงตรง ไม่ชักนำให้เข้าใจผิดและไม่ฝ่าฝืนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลที่สามใดๆ
    8. ผู้ค้าและร้านอาหารที่เข้าร่วม (ร้านอาหารที่เข้าร่วม) จะต้องจัดหาและปฏิบัติตามเงื่อนไขของบริการผลิตภัณฑ์ของพวกเขา หรือเงื่อนไขของคูปอง หรือบัตรกำนัลใดๆ (ตามที่นิยามไว้ในข้อ 6.1) (หากมี) ซึ่งจะถูกอัพโหลดไปยังระบบเพื่อเผยแพร่ทางช่องทางสื่อสารตามเงื่อนไขของสัญญาและผู้ค้าจะต้องรับผิดชอบแต่เพียงฝ่ายเดียวสำหรับการรับความเสี่ยงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม
    9. ผู้ค้ารับผิดชอบต่อการกระทำหรือการละเว้นใดๆ ของร้านอาหารที่เข้าร่วม (ร้านอาหารที่เข้าร่วม) ใดๆ และจุดแลกคะแนน (ตามที่กำหนดไว้ในข้อ 6.1 ด้านล่าง) อันเกี่ยวเนื่องกับการใช้ข้อเสนอ การขายและการแลกคูปองหรือบัตรกำนัลใดๆ (ตามที่นิยามไว้ในข้อ 6.1 ด้านล่าง) รวมถึงแต่ไม่จำกัดแค่เพียง (ก) การละเลยใดๆ โดยร้านอาหารที่เข้าร่วม (iร้านอาหารที่เข้าร่วม) และ/หรือจุดแลกคะแนนเพื่อใช้ คูปองหรือบัตรกำนัลใดๆ หรือ (ข) การกำหนดข้อตกลงและเงื่อนไขใดๆ เกี่ยวกับคูปองหรือบัตรกำนัลใดๆ รวมถึงคุณภาพ ความปลอดภัย ความสามารถในการใช้หรือด้านใดๆ ของผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการที่จัดหาโดยร้านอาหารที่เข้าร่วม (Participating Restaurant) และ/หรือจุดแลกคะแนนซึ่งฝ่าฝืนกฎหมายหรือระเบียบที่บังคับใช้ใดๆ
    10. ผู้ค้าจะต้องไม่อัพโหลดหรือส่งข้อมูลไปยังระบบด้วยเนื้อหาที่ผิดกฎหมายหรือข้อมูลที่ไม่เหมาะสมใดๆ เช่น เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการขายอาหารที่อาจเป็นอันตราย ผลิตภัณฑ์ยาสูบ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือสิ่งอื่นใดที่ห้ามโดยกฎหมายที่บังคับใช้ใดๆ
    11. ผู้ค้าตกลงว่า บริษัทจะต้องมีสิทธิที่จะคัดกรองล่วงหน้าและอนุมัติเนื้อหาของคูปอง บัตรกำนัลและวัสดุใดๆ ที่จัดส่งเข้าระบบก่อนที่จะถูกเผยแพร่บนช่องทางสื่อสาร บริษัทจะต้องมีสิทธิที่จะคัดกรองล่วงหน้า ปฏิเสธ หรือลบออกจากระบบหรือช่องทางสื่อสารซึ่งเนื้อหาใดๆ ที่ฝ่าฝืนเงื่อนไขใดๆ ของข้อตกลงและเงื่อนไข [ข้อตกลงและเงื่อนไข] หรือสัญญาหรือกฎหมายหรือระเบียบที่บังคับใช้ใดๆ
    12. ผู้ค้าจะต้องแจ้งบริษัทโดยทันทีเกี่ยวกับความผิดปกติ ความผิดพลาดหรือข้อบกพร่องใดๆ ในระบบ และจัดหาให้แก่บริษัทด้วยบัญชีรายการของ ความผิดปกติ ความผิดพลาด หรือข้อบกพร่องใดๆที่เกิดขึ้น และข้อมูลอื่นใดซึ่งบริษัทอาจร้องขอเพื่อให้ทำซ้ำเงื่อนไขที่เหมือนกับพวกที่มีอยู่เมื่อเกิดข้อผิดพลาด ข้อบกพร่อง หรือความผิดปกตินั้น
    13. ผู้ค้าจะต้องรักษาขั้นตอนเพื่ออำนวยความสะดวกการฟื้นฟูไฟล์ที่หายไปหรือที่แก้ไข ข้อมูลหรือซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ และผู้ค้าตกลงว่า เท่าที่ได้รับอนุญาตอย่างเต็มที่ภายใต้กฎหมาย บริษัทจะต้องไม่รับผิดภายใต้สถานการณ์ใดๆ สำหรับผลลัพธ์ใดๆ ที่เกิดจากข้อมูล ไฟล์หรือโปรแกรมที่หายไปหรือที่เสียหาย
    14. บริษัทอาจจัดหาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ เช่น ชื่อ อีเมล์ หรือหมายเลขโทรศัพท์ (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) เป็นครั้งคราวตามกฎหมายที่บังคับใช้ ให้แก่ผู้ค้า (โดยยึดพื้นฐานตามบริการผู้ค้าซึ่งผู้ค้าที่ได้บอกรับการเป็นสมาชิกไว้) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้ผู้ค้า หรือร้านอาหารที่เข้าร่วม (ร้านอาหารที่เข้าร่วม) สามารถจัดการการจองโต๊ะสำหรับผู้ใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการจัดคิว เพื่อจัดการและให้บริการหรือผลิตภัณฑ์ซึ่งได้ถูกเสนอโดยผู้ค้าหรือร้านอาหารที่เข้าร่วม (ร้านอาหารที่เข้าร่วม) ผ่านช่องทางการสื่อสาร หรือดำเนินกิจการและการวิเคราะห์ธุรกิจโดยมีเป้าหมายเพื่อให้บริการที่ดีกว่าแก่ผู้ใช้ดังกล่าว ผู้ค้าหรือร้านอาหารที่เข้าร่วม (ร้านอาหารที่เข้าร่วม) จะต้องปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม เมื่อใดก็ตามที่บริษัทได้ทำการจัดหาหรือที่ ได้ทำการรวบรวมผ่านระบบหรือบริการผู้ค้าตามกฎหมายที่บังคับใช้และจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของบทบัญญัติข้อมูลส่วนบุคคล (ส่วนตัว) (ข้อ 486 แห่งกฎหมายฮ่องกง) และกฎหมายหรือระเบียบที่บังคับใช้ที่เหมือนกันของประเทศอื่นๆ ที่ซึ่งผู้ค้าหรือร้านอาหารที่เข้าร่วม (ร้านอาหารที่เข้าร่วม) ของผู้ค้าอาจตั้งอยู่ที่อื่นๆ ซึ่งพวกเขาต้องปฏิบัติตาม ผู้ค้าจะต้องใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อรับประกันว่า ข้อมูลส่วนบุคคลได้รับการป้องกันการใช้ในทางที่ผิด การสูญเสียหรือการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต การดัดแปลงหรือการเปิดเผย และจะต้องแน่ใจว่า ข้อมูลส่วนบุคคลสามารถเข้าถึงได้เฉพาะโดยสมาชิกพนักงานของผู้ค้าและร้านอาหารที่เข้าร่วม (ร้านอาหารที่เข้าร่วม) ตามความจำเป็นที่ต้องทราบและเป็นความลับตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว
    15. ยกเว้นแต่ได้รับความยินยอมอย่างชัดเจน [ในข้อมูลที่เกี่ยวข้องถึงข้อมูลส่วนบุคคล ร้านอาหารที่เข้าร่วม (ร้านอาหารที่เข้าร่วม) บุคคลที่เกี่ยวข้องและในเครือของร้านอาหารนั้นจะไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ โดยมีวัตถุประสงค์นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในข้อ 3.12 ข้างต้น (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่ใช้เพื่อการตลาดหรือการขายตรงใดๆ)
    16. ผู้ค้าจะต้องทำนุบำรุงรักษาระบบ รวมทั้งและการต่ออายุใบอนุญาตและหนังสืออนุญาตซึ่งถูกกำหนดให้เกี่ยวข้องกับ การดำเนินกิจการของร้านอาหารที่เข้าร่วม (Participating Restaurant) เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้ทั้งหมดและจะต้องจัดเตรียม ขาย และจัดหาอาหารและ/หรือเครื่องดื่มใดๆ โดยสอดคล้องอย่างเคร่งครัดกับกฎหมาย ระเบียบ และมาตรฐานที่บังคับใช้ทั้งหมดเกี่ยวกับการจัดเตรียมอาหาร สุขอนามัยและความปลอดภัยที่บังคับใช้กับการดำเนินการร้านอาหาร
    17. ผู้ค้าตกลงว่า บริษัทอาจเปิดเผยหรือเผยแพร่ชื่อ ที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ค้าและ/หรือร้านอาหารที่เข้าร่วม (Participating Restaurant) และสื่อต่างๆ ที่ไม่เป็นความลับที่จัดหาโดยผู้ค้าและ/หรือร้านอาหารที่เข้าร่วม (Participating Restaurant) เพื่อส่งเสริมบริการของผู้ค้า
    18. ผู้ค้าตกลงที่จะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อแสดงสื่อส่งเสริม เช่น เต้นท์การ์ด แผ่นปลิว สติกเกอร์ เป็นต้น ที่จัดหาโดยบริษัทที่ร้านอาหารที่เข้าร่วม (Participating Restaurant) เพื่อส่งเสริมบริการของผู้ค้าที่ใช้โดยร้านอาหารที่เข้าร่วม (Participating Restaurant)
    19. ผู้ค้าจะต้องไม่ขายต่อหรือโอน ให้รับเหมาช่วง หรือพยายามขายต่อหรือโอนหรือให้รับเหมาช่วงบริการผู้ค้าให้แก่บุคคลใดๆ โดยไม่ได้รับความยินยอมอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัท
    20. ผู้ค้าจะต้องไม่แก้ไข ทำซ้ำ ดัดแปลง จำหน่าย เผยแพร่ วิศวกรรมย้อนกลับ รวม หรือพยายามที่จะสร้างสรรค์รหัสต้นฉบับ (Source Code) ใดๆ ซึ่งได้มาจากระบบ
  4. การบังคับใช้กับผู้ค้าในการใช้ประโยชน์โมดูลการจองโต๊ะของระบบ
    1. ผู้ค้าจะต้องรับประกันว่า รายการสำรองที่นั่ง (seat inventory) ของร้านอาหารที่เข้าร่วม (ร้านอาหารที่เข้าร่วม) ที่จองผ่านระบบจะมีความถูกต้องและมีข้อมูลเป็นปัจจุบัน
    2. ผู้ค้าจะต้องยอมรับการจองโต๊ะทั้งหมดที่ทำผ่านช่องทางสื่อสารและรายงานการเข้าใช้จริงของการจองที่เสร็จสมบูรณ์ อย่างซื่อสัตย์และเที่ยงตรง ซึ่งทำผ่านระบบด้วยรูปแบบที่เหมาะสมกับเวลา ในกรณีที่มีการกระทำทุจริตของผู้ค้า เช่น การจัดการบันทึกการเข้าใช้และจำนวนลูกค้าที่ได้ที่นั่งในร้านอาหารที่เข้าร่วม (ร้านอาหารที่เข้าร่วม) บริษัทมีสิทธิในการระงับบริการกับผู้ค้าใดๆ หรือทั้งหมดที่สมัครสมาชิกโดยทันที หรือการยกเลิกสัญญาโดยลบล้างสิทธิและไม่มีการเยียวยาอื่นใดจากทางบริษัท
    3. ผู้ค้าจะไม่มีสิทธิในการเรียกขอคืนเงินค่าบริการใดๆ ที่จ่ายไปแล้วตามเงื่อนไขใบให้บริการ และจะต้องทำการชำระเงินที่ยัง ค้างอยู่ในกรณีที่สิ้นสุดสัญญาอันเนื่องจากการฝ่าฝืนข้อ 4 นี้
  5. การบังคับใช้กับผู้ค้าซึ่งกำหนดให้ผู้ใช้ค้ำประกันการจองโดยเงินมัดจำ (“บริการจัดเก็บเงินมัดจำ”)
    1. ผู้ค้าจะต้องระบุจำนวนเงินมัดจำ (“เงินมัดจำ”) ต่อบุคคลผู้รับประทานอาหารซึ่งกำหนดให้ค้ำประกันการจองโต๊ะใดๆ ผ่านระบบ
    2. ผู้ใช้ที่ดำเนินการจองที่นั่งจะต้องให้ข้อมูลบัตรเครดิต (“บัตรเครดิต”) รวมถึงชื่อผู้ถือบัตรเครดิต เลขที่บัตรเครดิต และวันที่หมดอายุในการค้ำประกันการจอง
    3. เงินมัดจำจะต้องถูกเรียกเก็บผ่านบัตรเครดิต (“การเรียกเก็บเงินมัดจำ”) ในกรณีที่ไม่มีการแสดงตนใดๆ (จำนวนผู้เข้าใช้น้อยกว่าจำนวนบุคคลผู้รับประทานอาหารที่จอง จะไม่ถูกนับว่าเป็นการไม่แสดงตน) หรือการเปลี่ยนหรือการยกเลิกการจองใดๆ หลังจากวันสิ้นสุดตามที่กำหนดไว้ล่วงหน้าโดยผู้ค้าผ่านระบบ (ซึ่งถือว่าเป็น “การไม่แสดงตน”)
    4. ผู้ค้าต้องรายงานการไม่แสดงตนผ่านระบบ (“การแจ้ง”) ภายใน 2 วันหลังจากวันที่จองรับประทานอาหาร หลังจากนั้น ระบบจะส่งอีเมล์โดยอัตโนมัติ (“อีเมล์”) ไปยังผู้ใช้ที่ทำการจองซึ่งแจ้งเขา/เธอเกี่ยวกับเงินมัดจำที่จะเรียกเก็บผ่านบัตรเครดิต มิฉะนั้น การจองจะถือว่าถูกจ่ายเงินแล้ว และจะไม่มีการเรียกเก็บเงินมัดจำ
    5. ในกรณีที่ไม่มีการแสดงตนใดๆ บริษัทจะเรียกเก็บเงินมัดจำไปยังบัตรเครดิตภายใน 7 วัน ทำการเมื่อได้รับการแจ้ง หากไม่มีการอุทธรณ์ที่ส่งโดยผู้ใช้ที่ทำการจอง
    6. ผู้ใช้ที่ทำการจองอาจอุทธรณ์ (“อุทธรณ์”) หากมี และได้ส่งอีเมล์ไปยังบริษัทพร้อมกับแถลงการณ์ที่เป็นลายลักษณ์อักษรที่แสดงมูลเหตุที่จะพิสูจน์การอุทธรณ์ภายใน 5 วันทำการนับตั้งแต่วันที่ส่งอีเมล์ หลังจากนั้น บริษัทจะอภิปรายกับผู้ค้าภายใน 3 วันทำการเมื่อได้รับการอุทธรณ์เพื่อยืนยันว่า เงินมัดจำควรถูกเรียกเก็บและปฏิบัติการที่ได้รับการยืนยันแล้วจะถูกนำมาใช้ให้สอดคล้องกัน ในส่วนของการอุทธรณ์ บริษัทอาจดำเนินการสอบสวนตามที่ตนจะถือว่าเหมาะสม ดังนั้นด้วยเหตุนี้ผู้ค้าจะต้องให้ความช่วยเหลืออย่างสมเหตุสมผลทั้งหมด และการตัดสินของบริษัทต่อการอุทธรณ์จะต้องถือว่าเป็นสิ้นสุดและเป็นข้อสรุป
    7. หลังจากหักค่าธรรมเนียมการวางมัดจำ (Deposit Handling Fee) (ตามที่นิยามและกำหนดในใบสั่งบริการ) จากเงินมัดจำที่เรียกเก็บเป็นค่าธรรมเนียมการวางมัดจำ บริษัทจะจ่ายส่วนที่เหลือของเงินมัดจำที่เรียกเก็บให้แก่ผู้ค้าด้วยเช็คหรือด้วยวิธีการอื่นใดตามที่ตกลงกันระหว่างบริษัทและผู้ค้าก่อนสิ้นสุดเดือนถัดไป
    8. บริษัทจะต้องไม่รับผิดชอบสำหรับต้นทุน การสูญเสีย ค่าสินไหมทดแทน ค่าเสียหาย คำสั่งหรือการกระทำใดๆ ที่เกิดขึ้นหรือประสบโดยบุคคลใดๆ ทางตรงหรือทางอ้อมที่เกิดขึ้นจากการเรียกเก็บเงินมัดจำหรือการเรียกเก็บเงินมัดจำที่ไม่สำเร็จจากผู้ใช้ที่จองใดๆ
  6. การบังคับใช้กับผู้ค้าในการใช้ประโยชน์โมดูลธุรกรรมบัตรกำนัล (Voucher Transaction Module) ของระบบ
    1. หลักเกณฑ์ในการทำธุรกรรมบัตรกำนัล (Voucher Transaction Module) ของระบบทำให้ผู้ค้าสามารถขายบัตรกำนัล (ตามที่กำหนดไว้ด้านล่าง) ให้แก่ผู้ใช้ช่องทางสื่อสารและผู้ใช้แพลตฟอร์มบุคคลที่สาม (หากมี) โดยการยอมรับบัตรเครดิต บัตรเดบิตและวิธีการชำระเงินอื่นๆ (“การชำระเงิน”) ผ่านบริการประมวลการชำระเงินที่ควบคุมโดยผู้ขาย (ตามที่นิยามไว้ในข้อ 910.1) ที่ทำให้พร้อมใช้บนช่องทางสื่อสารและบนแพลตฟอร์มบุคคลที่สาม (หากมี) (“บริการธุรกรรมบัตรกำนัล”) บัตรกำนัล (“บัตรกำนัล”) ให้สิทธิแก่ผู้ถือบัตรกำนัลทำการแลกบริการและ/หรือผลิตภัณฑ์ผ่านแอพพลิเคชั่นหรือแพลตฟอร์มบุคคลที่สาม (แล้วแต่กรณี) สำหรับใช้ในร้านอาหารที่เข้าร่วม (ร้านอาหารที่เข้าร่วม) บางแห่ง (“จุดแลกคะแนน”) ตามที่กำหนดโดยผู้ค้าภายใต้เงื่อนไขของบัตรกำนัล (ตามที่นิยามไว้ในข้อ 6.2 ด้านล่าง)
    2. ผู้ค้าจะต้องรับประกันว่า ข้อตกลงและเงื่อนไขของการใช้บัตรกำนัล (“เงื่อนไขของบัตรกำนัล”) ที่จัดหาให้ผ่านระบบ ไม่จำกัดแค่เพียงราคาขาย ส่วนลด เงื่อนไขการใช้ รวมถึงระยะเวลาที่ใช้ได้ คำอธิบายบริการโดยละเอียด หรือผลิตภัณฑ์ที่นำมาแลกด้วยบัตรกำนัลเป็นต้น มีข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นความจริงเที่ยงตรงและไม่ทำให้เข้าใจผิด และผู้ค้าหรือร้านอาหารที่เข้าร่วม (ร้านอาหารที่เข้าร่วม) จะต้องจัดหาบริการและ/หรือผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้ถือบัตรกำนัลตามเงื่อนไขของบัตรกำนัล ผู้ค้าตกลงที่จะชดเชยและป้องกันโอเพินไรซ์ เจ้าหน้าที่ กรรมการ ลูกจ้าง ตัวแทน หุ้นส่วน ผู้แทน ผู้ถือหุ้น และผู้รับใช้จากการอ้างสิทธิเรียกร้อง การกระทำ คำสั่ง หนี้สิน การสูญเสีย ความเสียหาย ต้นทุนและค่าใช้จ่ายบนพื้นฐานการชดเชยเต็มจำนวนที่เกิดจากหรือมีผลจากการละเมิดข้อ 6.2 นี้ของผู้ค้า
    3. เนื้อหาต่างๆ ที่ส่งโดยผู้ค้าไปยังระบบเพื่อสร้างบัตรกำนัลต้องได้รับการอนุมัติจากบริษัทก่อนที่บัตรกำนัลจะแสดงไว้บนช่องทางการสื่อสารหรืออาจถูกแสดงไว้บนแพลตฟอร์มบุคคลที่สาม
    4. การชำระเงินทั้งหมดอยู่ภายใต้การดำเนินการโดยผู้ขายและธนาคารที่ชำระเงินของผู้ใช้ผู้ที่ได้ซื้อบัตรกำนัล บริษัทจะต้องไม่รับผิดในทางใดๆ หากผู้ค้าหรือธนาคารที่ชำระเงินปฏิเสธที่จะดำเนินการ หรือยอมรับการชำระเงินใดๆ ด้วยเหตุผลใดๆ
    5. ผู้ค้าจะรับผิดชอบแต่เพียงฝ่ายเดียวสำหรับการแลกคะแนนเพื่อให้บริการ หรือผลิตภัณฑ์ใดๆแก่ผู้ถือบัตรกำนัลภายใต้เงื่อนไขของบัตรกำนัลตามเงื่อนไขของสัญญาเพื่อจัดการกับการอ้างสิทธิเรียกร้องต่างๆ หรือประเด็นปัญหาใดๆ ที่เกิดจากการใช้บัตรกำนัล
    6. เมื่อสิ้นสุดสัญญาที่ควบคุมการใช้บริการธุรกรรมบัตรกำนัล (“การสิ้นสุด”) สิทธิและข้อผูกมัดของผู้ค้า จุดแลกคะแนน บริษัทและผู้ซื้อในส่วนของบัตรกำนัลซึ่งได้ทำการชำระเงินก่อนการสิ้นสุด จะยังคงมีผลจนกว่าจะมีการปฏิบัติตามข้อผูกพันของคู่สัญญาดังกล่าว
  7. หน้าที่ของผู้ค้าในการใช้ประโยชน์จากหลักเกณฑ์การจัดคิวออนไลน์ (Online Queuing Module) ของระบบ
    1. ร้านอาหารที่เข้าร่วม (ร้านอาหารที่เข้าร่วม) จะต้องกำหนดประเภทบัตรคิวที่ถูกต้องและเที่ยงตรง (ได้ตามประเภททั้ง 5ประเภท) ผ่านระบบและยอมรับบัตรคิวทั้งหมด (“บัตรคิว”) ที่ออกผ่านช่องสื่อสารหรือที่ออกผ่านตู้ออกบัตรคิวใดๆ ที่เชื่อมต่อกับระบบ
    2. ในกรณีที่มีข้อพิพาทใดๆ ระหว่างผู้ใช้ของช่องทางสื่อสารและร้านอาหารที่เข้าร่วม (Participating Restaurant) เกี่ยวกับการจัดการที่นั่งที่เกิดจากการใช้บัตรคิวใดๆ ร้านอาหารที่เข้าร่วม (Participating Restaurant) จะต้องจัดการกับผู้ใช้ดังกล่าวโดยตรงและฉันมิตร เพื่อความชัดเจน บริษัทจะต้องไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการจัดการข้อพิพาทดังกล่าวใดๆ
  8. การบังคับใช้กับผู้ค้าในการใช้ประโยชน์โมดูลคีออสจัดคิว (Queuing Kiosk Module) /หลักเกณฑ์ อี-ซิกเนจ (e-Signage Module) ของระบบ
    1. ฮาร์ดแวร์ใดๆ (“ฮาร์ดแวร์”) การติดตั้งและการบำรุงรักษาฮาร์ดแวร์ซึ่งจำเป็นสำหรับการใช้ประโยชน์โมดูลคีต่อหลักเกณฑ์คีออสและโมดูล หลักเกณฑ์ อี-ซิกเนจจะถูกจัดหาและจัดการโดยผู้ให้บริการบุคคลที่สาม (“ผู้ให้บริการ”) ซึ่งเป็นอิสระจากบริษัท ดังนั้น ผู้ค้าถูกกำหนดให้เข้าทำสัญญาแยกต่างหากกับผู้ให้บริการในส่วนของฮาร์ดแวร์และบริการดังกล่าวด้วยความเสี่ยงและต้นทุนของตนเอง
    2. ในกรณีใดๆ บริษัทจะต้องไม่รับผิดต่อผู้ค้า ร้านอาหารที่เข้าร่วม (ร้านอาหารที่เข้าร่วม) หรือผู้ใช้ใดๆ ของระบบหรือช่องทางสื่อสารในส่วนของการสูญเสีย ค่าใช้จ่าย ค่าเสียหาย ค่าสินไหมทดแทน คำสั่งหรือการกระทำ (รวมถึงการสูญเสียหรือความเสียหายทางเศรษฐกิจหรือผลขาดทุนที่ตามมา หรือการขาดทุนหรือการสูญเสียรายได้ กำไร ค่าความนิยม การต่อรองราคาหรือโอกาส หรือการสูญเสียหรือการทุจริตข้อมูล หรือการสูญเสียเงินออมที่คาดการณ์ไว้ ทั้งทางตรงและทางอ้อม) ซึ่งอาจประสบหรือก่อให้เกิดโดยตรงหรือโดยอ้อมเกี่ยวกับการดำเนินการหรือไม่ดำเนินการของผู้ให้บริการ หรือมีสาเหตุมาจากการที่ไม่สามารถปฏิบัติงานได้ของฮาร์ดแวร์ใดๆ
  9. การบังคับใช้กับผู้ค้าในการใช้ประโยชน์หลักเกณฑ์การชำระเงิน ณ จุดขาย (Spot Payment Module) ของระบบ
    1. ด้วยการเข้าถึงหรือการใช้การชำระเงิน ณ จุดขายของระบบ ผู้ค้ารับทราบว่า เขาหรือเธอได้อ่านและ ทำความเข้าใจและยอมรับเงื่อนไขเหล่านี้ของบริการผู้ค้า (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เงื่อนไขของการชำระเงิน ณ จุดขาย (ตามที่อาจแก้ไขโดยบริษัทเป็นครั้งคราว) และตกลงที่จะผูกมัดโดยพวกเขาเอง
  10. การประมวลผลการชำระเงิน
    1. ในส่วนของการชำระเงินใดๆ ที่ประมวลผ่านช่องทางสื่อสารใดๆ ผู้ค้าตกลงและรับทราบว่า บริษัทใช้ผู้ขายบุคคลที่สาม/ผู้ให้บริการ (“ผู้ขาย”) เพื่อประมวลผลการชำระเงิน จัดการข้อมูลบัตรเดบิตและบัตรเครดิต และป้องกันการฉ้อโกง ข้อมูลบัตรเดบิตและบัตรเครดิตของผู้ใช้จะถูกเก็บกับผู้ขาย และจะไม่ถูกทำให้พร้อมสำหรับบริษัท ผู้ค้าหรือร้านอาหารที่เข้าร่วม (Participating Restaurant)
    2. บริษัทสงวนสิทธิในการ (ก) ระงับ จำกัด หรือยกเลิกสิทธิของผู้ค้าในการใช้บริการเก็บเงินมัดจำ หรือบริการธุรกรรมบัตรกำนัล หรือ บริการชำระเงิน ณ จุดขาย (ข) ปฏิเสธในการดำเนินการเก็บเงินมัดจำหรือการชำระเงินใดๆ (ค) การดึงรายการ เงินมัดจำหรือการชำระเงินกลับ (ง) ระงับการชำระเงิน และ/หรือ (จ) ติดต่อผู้ใช้เพื่อพิสูจน์ธุรกรรมประมวลผลการชำระเงินใดๆ หากเป็นไปได้ บริษัทจะทำการแจ้งล่วงหน้าแก่ผู้ค้าเกี่ยวกับการใช้สิทธินั้น อย่างไรก็ตาม การแจ้งล่วงหน้าจะไม่มีขึ้น หากมีความจำเป็นเร่งด่วนในการใช้ปฏิบัติการดังกล่าวใดๆ เช่น สถานการณ์ภัยคุกคามด้านความปลอดภัย การฉ้อโกงที่อาจเกิดขึ้น หรือกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
  11. เหตุสุดวิสัย
    1. "เหตุการณ์สุดวิสัย" หมายความว่า เหตุการณ์จากการกระทำของกลุ่มแกนนำใดๆ สงคราม การกระทำของกลุ่มผู้ร้ายข้ามชาติ การโจมตีของผู้ก่อการร้าย จลาจล ความวุ่นวายของพลเรือน การนัดหยุดงาน การปิดโรงงาน การรบกวนของแรงงานอื่นๆ (รวมถึงที่เกี่ยวข้องหรือมีผลกระทบต่อบริษัท) หรือสถานการณ์อื่นใด ที่นอกเหนือการควบคุมอันสมเหตุสมผลของบริษัท
    2. บริษัทจะไม่ต้องรับผิดชอบต่อความล่าช้าหรือการละเลยใดๆ ในทุกกรณีในการให้บริการผู้ค้าตามเงื่อนไขใดๆ ของสัญญาเนื่องจากเหตุสุดวิสัย
    3. หากความล่าช้าหรือการละเลยของบริษัทในการดำเนินงานตามข้อผูกมัดมีสาเหตุหรือคาดการณ์ว่าสืบเนื่องจากเหตุสุดวิสัย การดำเนินงานตามข้อผูกมัดของบริษัทจะต้องถูกระงับไว้ก่อน
  12. สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา
    1. สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาในระบบและช่องทางสื่อสารทั้งหมด (“สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท”) รวมถึงแต่ไม่จำกัดแค่เพียง
      1. (ก) วัสดุใดๆ (รวมถึงแต่ไม่จำกัดแค่เพียงซอฟต์แวร์ เอกสาร เทมเพลท ข้อมูล การออกแบบ กราฟิก การจัดรูปแบบ หรือ CGI ของบริษัท) ซึ่งรวมเข้ากับหรือซึ่งได้ถูกใช้ในการพัฒนาหรือการควบคุมระบบและช่องทางสื่อสาร และ
      2. (ข) อินเตอร์เฟสของผู้ใช้จากช่องทางสื่อสารและระบบ จะต้องตกเป็นของบริษัท หรือบริษัทที่ถือหุ้นของบริษัทนั้น
    2. โดยไม่เป็นการลบล้างข้อ 12.1 ข้างต้น สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาในข้อมูล โลโก้ การออกแบบ กราฟิก หรือสื่อที่เกี่ยวข้องอื่นใด (“ข้อมูล”) ที่ถือครองและจัดหาโดยผู้ค้าจะต้องตกเป็นของผู้ค้า
    3. ผู้ค้ารับประกันว่า ตนจะไม่ฝ่าฝืนหรือไม่อนุญาตให้บุคคลที่เกี่ยวข้องของตนทำการละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทภายใต้สถานการณ์ใดๆ ทั้งโดยตรงหรือโดยอ้อม
    4. ผู้ค้าจะไม่ทำการลบล้างข้อกำหนดอื่นๆ ภายใต้ข้อ 12 ผู้ค้าจะรับรองและรับประกันว่า ข้อมูลที่จัดส่งให้บริษัทหลังจากนี้หรืออันเกี่ยวเนื่องกับเรื่องนี้เพื่อใช้ในระบบและ/หรือช่องทางสื่อสาร จะต้องไม่ละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและสิทธิอื่นใดของบุคคลที่สามใดๆ (รวมถึงการไม่จำกัดแค่เพียงเครื่องหมายการค้า สิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ หรือการออกแบบที่จดทะเบียนแล้วหรือยังไม่ได้จดทะเบียนใดๆ )
  13. การรักษาความลับ (Confidentiality)
    1. ผู้ค้า บริษัทและบุคคลที่เกี่ยวข้องจะต้องรักษาความลับ และไม่ใช้สารสนเทศและข้อมูลใดๆ ที่เป็นความลับของคู่สัญญาอีกฝ่าย หรือได้รับการปฏิบัติให้เป็นความลับโดยคู่สัญญาอีกฝ่าย รวมถึงแต่ไม่จำกัดแค่เพียงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการบริการและระบบ ข้อมูลเกี่ยวการพัฒนา เทคนิค ผลิตภัณฑ์ การขาย การตลาด การส่งเสริมการขาย การปฏิบัติการ การดำเนินงาน ต้นทุน นโยบาย การเงิน ธุรกิจ กระบวนการ และข้อมูลที่มีกรรมสิทธิ์อื่นๆ ความลับทางการค้า ความรู้และข้อมูลของลูกค้าของคู่สัญญาอีกฝ่าย (“ข้อมูลความลับ”) และจะต้องทำให้เจ้าหน้าที่ ลูกจ้าง ตัวแทนและผู้รับเหมาช่วงของตนรักษาข้อมูลเป็นความลับ เว้นแต่มีวัตถุประสงค์ในการเเสดงเพียงเท่าที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการที่ถูกต้องตามข้อผูกมัดภายใต้สัญญาของฝ่ายรับ
    2. คู่สัญญาจะต้องไม่ฝ่าฝืนข้อ 13.1 ข้างต้นในสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งมันถูกบังคับโดยกฎหมาย ระเบียบ หรือคำสั่งที่บังคับใช้โดยศาล หน่วยงานรัฐ หรือหน่วยงานที่มีอำนาจตามขอบเขตอำนาจศาล หรือมิฉะนั้น ถูกกำหนดโดยสถาบันทางการเงินใด ๆ อันเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานหรือธุรกรรมที่มุ่งหมายไว้ภายใต้สัญญาให้เปิดเผยข้อมูลความลับของคู่สัญญาอีกฝ่าย
    3. โดยไม่คำนึงถึงข้อกำหนดอื่นใดของข้อ 13 นี้ บริษัทและผู้ค้าอาจเปิดเผยข้อมูลความลับใดๆ ของคู่สัญญาอีกฝ่ายให้แก่บริษัท ทนายความ ผู้ตรวจบัญชี บริษัทประกันภัยหรือนักบัญชีที่เกี่ยวข้องของตนเองตามความจำเป็นที่ต้องทราบ และจะต้องรับประกันว่า บริษัท ทนายความ ผู้ตรวจบัญชี บริษัทประกันภัยหรือนักบัญชีที่เกี่ยวข้องนั้นจะต้องมีหน้าที่เก็บรักษาความลับด้วย
  14. การใบอนุญาตให้ใช้เนื้อหา
    1. ผู้ค้าให้สิทธิและใบอนุญาตแบบไม่ผูกขาด ทั่วโลก ปลอดค่าลิขสิทธิ์แก่บริษัทเพื่อใช้ เผยแพร่ จัดงาน แสดง ดัดแปลง แก้ไข ส่งเสริม คัดลอก ดาวน์โหลด ให้อนุญาตดำเนินการส่งต่อ แจกจ่าย ทำซ้ำ โอน /หรือแก้ไขสื่อและเนื้อหาที่จัดหาให้แก่บริษัท หรืออัพโหลดไปยังระบบโดยผู้ค้าหรือคู่สัญญาที่เกี่ยวข้องที่จำเป็นแก่บริษัทในการดำเนินการตามข้อผูกมัดที่มุ่งหมายตามสัญญา รวมถึงแต่ไม่จำกัดแค่เพียงเพื่อทำการตลาด ส่งเสริม และจำหน่ายต่อและใช้ข้อมูลนั้นเพื่อการวิเคราะห์ในสื่อใดๆ ตามที่บริษัทถือว่าเหมาะสม
  15. ความรับผิดของบริษัท
    1. ไม่มีสัญญาข้อใดๆที่ได้รับการยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของคู่สัญญาฝ่ายใด ๆ เนื่องจากการเสียชีวิตหรือการบาดเจ็บที่เกิดจากความประมาทเลินเล่อหรือการฉ้อโกง
    2. ภายใต้ข้อ 15.1 ข้างต้น และเพียงเท่าที่อนุญาตโดยกฎหมาย บริษัทจะต้องไม่รับผิดต่อผู้ค้าหรือคู่สัญญาที่เกี่ยวข้องของตนในส่วนของการสูญเสีย ความเสียหาย การอ้างสิทธิเรียกร้อง คำสั่งหรือการกระทำ (รวมถึงการสูญเสียหรือความเสียหาย ทางเศรษฐกิจซึ่งเป็นผลที่ตามมา หรือการสูญเสียรายได้ กำไร มิตรภาพ การต่อรองราคาหรือโอกาส หรือสูญเสียจากการทุจริตข้อมูล หรือการสูญเสียเงินชดเชยที่คาดการณ์ไว้ โดยตรงหรือโดยอ้อม) ซึ่งอาจประสบหรือก่อให้เกิดโดยตรงหรือโดยอ้อมเกี่ยวกับการดำเนินการของบริษัทตามสัญญาหรือกิจกรรมใดๆ ที่มุ่งหมายตามสัญญา ไม่ว่าจะด้วยการละเมิดสัญญา การละเมิดสิทธิ (รวมถึงแต่ไม่จำกัดแค่เพียงการละเลย) หรืออยู่ภายใต้บทบัญญัติใดๆ หรืออื่นๆ และไม่ว่าบริษัทได้ตระหนักถึงความเป็นไปได้ของการสูญเสีย ความเสียหาย การอ้างสิทธิเรียกร้อง คำสั่งหรือการกระทำหรือไม่ก็ตาม หรือควรได้ตระหนักถึงความเป็นไปได้นั้น
    3. สัญญาไม่ต้องคำนึงถึงข้อขัดแย้งใดๆ เพียงเท่าที่ได้รับอนุญาตโดยกฎหมาย ความรับผิดโดยรวม (หนี้สินรวม) ของบริษัทภายใต้หรือเกี่ยวข้องกับการให้บริการผู้ค้า สัญญา การดำเนินการตามสัญญาหรือกิจกรรมใดๆ ที่มุ่งหมายตามสัญญา ไม่ว่าจะเป็นละเมิดสัญญา ละเมิดสิทธิหรืออยู่ภายใต้บทบัญญัติใดๆ หรืออื่นๆ ในปีปฏิทินใดๆ ก็ตาม จะต้องไม่มีกรณีใดที่เกินกว่าค่าบริการรวมที่ชำระโดยผู้ค้าให้แก่บริษัทในปีปฏิทินนั้น
    4. ผู้ค้ายืนยันว่า ตนไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเป็นตัวแทนใดๆ ที่ทำโดยบริษัทซึ่งไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนไว้ในสัญญา หรือขึ้นอยู่กับคำอธิบาย ภาพแสดงหรือข้อกำหนดลักษณะเฉพาะที่มีอยู่ในเอกสาร รวมถึงแต่ไม่จำกัดแค่เพียงแคตตาล็อกหรือเรื่องการประชาสัมพันธ์ที่ทำโดยบริษัท
    5. บริษัทจะรับผิดเพียงเท่าที่ได้รับอนุญาตโดยกฎหมาย บริษัทจะต้องไม่รับผิดสำหรับความสูญเสีย การอ้างสิทธิเรียกร้อง ความเสียหาย คำสั่งหรือการกระทำใดๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือโดยอ้อมจากการที่ร้านอาหารได้เข้าร่วม (ร้านอาหารที่เข้าร่วม) โดยผู้ใช้ใดๆ การใช้บริการ หรือผลิตภัณฑ์ของผู้ใช้ใดๆ ที่ให้โดยผู้ค้า หรือร้านอาหารที่เข้าร่วม (ร้านอาหารที่เข้าร่วม) ผ่านช่องทางสื่อสาร หรือไม่รับผิดหรือรับผิดชอบต่อการมีหน้าที่ๆต้องไปเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทใดๆ ระหว่างร้านอาหารที่เข้าร่วม () และคู่สัญญาใดๆ ที่เกิดขึ้นหรือเกี่ยวเนื่องกับการใช้บริการผู้ค้า หรือการขายสินค้าหรือบริการบัตรกำนัลใดๆ ที่เสนอโดยผู้ค้า หรือร้านอาหารที่เข้าร่วม (ร้านอาหารที่เข้าร่วม)
  16. การชดเชย
    1. ผู้ค้าจะต้องชดเชยและป้องกันป้องบริษัท และเจ้าหน้าที่ ลูกจ้าง ตัวแทนและผู้รับเหมาของบริษัทจากและต่อการสูญเสียใดๆ (รวมถึงต้นทุนและค่าใช้จ่ายตามกฎหมาย) ความเสียหาย การชำระหนี้ การอ้างสิทธิเรียกร้อง หรือความรับผิดที่เกิดหรือประสบอันเนื่องจาก
      1. (ก) การฝ่าฝืนโดยผู้ค้าต่อข้อผูกมัดภายใต้สัญญา
      2. (ข) การละเว้นหรือการละเลยโดยเจตนา ที่ผิดกฎหมายโดยผู้ค้าหรือคู่สัญญาที่เกี่ยวข้องของผู้ค้า
      3. (ค) การละเมิดหรือความไม่แม่นยำในการรับรอง การรับผิดชอบหรือการรับประกันของผู้ค้าใดๆ ภายใต้สัญญา
      4. (ง) การละเว้นหรือการประพฤติผิดโดยเจตนาของผู้ค้าหรือคู่สัญญาที่เกี่ยวข้อง หรือ
      5. (จ) การกระทำ การร้องเรียน ความรับผิดหรือการอ้างสิทธิเรียกร้องใดๆ รวมถึงการอ้างสิทธิเรียกร้องสำหรับการบาดเจ็บส่วนบุคคล การเจ็บป่วย การเสียชีวิต หรือความเสียหายต่อทรัพย์สิน ที่ทำให้เกิดขึ้นโดย (1) คู่สัญญาใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ของเขา/เธอในข้อเสนอ คูปอง บัตรกำนัล การจองโต๊ะ หรือบริการจัดคิว หรือ บริการชำระเงิน ณ จุดขาย และ/หรือ บริการอื่นใดที่ทำให้พร้อมบนช่องทางสื่อสารผ่านการใช้ของผู้ค้า และ/หรือร้านอาหารที่เข้าร่วม (ร้านอาหารที่เข้าร่วม) หรือที่เกิดจากการใช้บริการหรือสินค้าของเขา หรือเธอที่ร้านอาหารที่เข้าร่วม (ร้านอาหารที่เข้าร่วม) หรือ (2) คู่สัญญาใดๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อมูลทั้งหมดหรือส่วนใดๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดแค่เพียงการรั่วไหลของข้อมูลจากฐานข้อมูล หรือ การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาใดๆ การหมิ่นประมาทหรือยักยอกความลับทางการค้าที่มีสาเหตุจากการกระทำใด ๆ ของผู้ค้าหรือคู่สัญญาที่เกี่ยวข้องใด ๆ
  17. ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ (Disclaimer)
    1. ผู้ค้ารับทราบว่า บริการผู้ค้าเป็นบริการบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ซึ่งอาจอาจเกิดไฟดับและล่าช้าได้ ดังนั้น บริษัทไม่รับประกันว่า บริการผู้ค้า ระบบและช่องทางสื่อสารจะไม่ถูกขัดขวางหรือปลอดข้อบกพร่อง
    2. บริษัทไม่ยอมรับความรับผิดชอบหรือความรับผิดใดๆ ก็ตามในส่วนของปัญหาเครือข่าย ระบบหรือการล้มเหลวของฮาร์ดแวร์ใดๆ ปัญหาการเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือการแทรกแซงเนื่องจากแอพพลิเคชั่นหรือระบบหรือฮาร์ดแวร์ภายนอก ซึ่งอาจส่งผลให้บริการผู้ค้าได้รับผลกระทบหรือไม่พร้อมใช้งาน
    3. ระบบและช่องทางสื่อสาร รวมถึงเนื้อหา ซอฟต์แวร์ การทำงานและโมดูลทั้งหมดอันเกี่ยวเนื่องกับบริการผู้ค้าได้ถูกจัดเตรียมไว้ “ตามที่เป็น” (ภายใต้การทดแทน การลบออก การดัดแปลง การส่งเสริมหรือการปรุงปรุงใดๆ ที่บริษัทอาจดำเนินการเป็นครั้งคราว) โดยไม่ได้รับประกันประเภทใดๆ เพียงเท่าที่อนุญาตโดยกฎหมาย บริษัทไม่ยอมรับการรับประกันทั้งหมด รวมถึงการรับประกันใดๆ เกี่ยวกับความสามารถในการค้าขาย การไม่ฝ่าฝืนสิทธิของบุคคลที่สาม ความเหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะหรือเกี่ยวกับความแม่นยำ ความไว้วางใจ ความสมบูรณ์หรือความเหมาะสมแก่เวลาของระบบและช่องทางสื่อสาร ผู้ค้าตกลงที่จะยอมรับความเสี่ยงทั้งหมดเกี่ยวกับคุณภาพและสมรรถนะของบริการผู้ค้า และบริษัทจะต้องไม่รับผิดหากระบบและ/หรือช่องทางสื่อสารไม่พร้อมสำหรับผู้ค้า ร้านอาหารที่เข้าร่วม (ร้านอาหารที่เข้าร่วม) หรือผู้ใช้ระบบหรือช่องทางสื่อสารด้วยเหตุผลใดก็ตาม
  18. การสิ้นสุดสัญญา
    1. โดยไม่เป็นการลบล้างสิทธิอื่นใดซึ่งบริษัทจะต้อง/อาจมีภายใต้สัญญาหรือตามกฎหมายหรือความเสมอภาค บริษัทอาจยกเลิกสัญญา (1) ด้วยเหตุผลใดๆ ด้วยการแจ้งล่วงหน้า 2 เดือนอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรแก่ผู้ค้า หรือ (2) ทันทีโดยการแจ้งอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรแก่ผู้ค้า หากผู้ค้าละเมิดเงื่อนไขของสัญญยาและหากการละเมิดสามารถเยียวยาได้ การละเมิดนั้นไม่ได้รับการเยียวยาภายในสิบสี่ (14) วันเมื่อมีการแจ้งโดยบริษัท
  19. การมีผลหลังสิ้นสุดสัญญา
    1. ข้อ 3.7, 3.12, 3.13, 3.18, 4.3, 6.4, 7.3, 11, 12, 13, 15, 16, 17, 19, 20 และ 21 ตลอดจนเงื่อนไขอื่นๆ ซึ่งโดยปกติยังคงมีผลดำเนินการอยู่ และมีผลหลังการสิ้นสุดสัญญา
  20. การเป็นโมฆะบางส่วน
    1. ในกรณีที่ข้อกำหนดใดๆ ของสัญญาถูกตัดสินให้ผิดกฎหมาย ไม่ถูกต้อง หรือไม่สามารถบังคับใช้ได้ ความถูกต้องและความสามารถในการบังคับใช้ของข้อกำหนดที่เหลือของสัญญาจะต้องไม่ได้รับผลกระทบ และแทนที่ข้อกำหนดที่ผิดกฎหมาย ไม่ถูกต้อง หรือไม่สามารถบังคับใช้ได้ จะต้องถูกเพิ่มเป็นส่วนของสัญญาด้วยข้อกำหนดตั้งแต่หนึ่งข้อขึ้นไปให้มีเงื่อนไขเหมือนกันตามที่อาจถูกกฎหมาย ถูกต้องและสามารถบังคับใช้ได้ภายใต้กฎหมายที่บังคับใช้
  21. กฎหมายควบคุมและการแก้ไขข้อพิพาท
    1. เงื่อนไขเหล่านี้ของบริการผู้ค้าและข้อพิพาทหรือเรื่องใดๆ ที่เกิดจากหรือมีสาเหตุจากการใช้ช่องทางสื่อสารจะต้องถูกควบคุมโดยและตีความตามกฎหมายแห่งเขตปกครองพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (ต่อไปเรียกว่า "ฮ่องกง”) เว้นแต่ระบุไว้เป็นอย่างอื่น
      ข้อพิพาท ข้อขัดแย้งหรือการเรียกร้องใดๆ ที่เกิดจากหรือเกี่ยวข้องกับข้อตกลงและเงื่อนไขรวมถึงความถูกต้อง การไม่ถูกต้อง การฝ่าฝืนหรือการสิ้นสุดของสัญญา จะต้องถูกจัดการโดยการอนุญาโตตุลาการตามระเบียบการอนุญาโตตุลาการ HKIAC ณ ปัจจุบันที่บังคับใช้และตามที่อาจแก้ไขโดยส่วนที่เหลือของข้อนี้
      1. (ก) หน่วยงานที่แต่งตั้งจะต้องเป็นศูนย์การอนุญาโตตุลาการนานาชาติฮ่องกง (ต่อไปเรียกว่า “HKIAC”) หรือนอกจากนี้ หน่วยงานแต่งตั้งอาจได้รับการแต่งตั้งโดยบริษัทด้วยดุลพินิจแต่ฝ่ายเดียวในประเทศใดๆ ซึ่งบริษัทพิจารณาว่าเหมาะสม ผู้ใช้ใดๆ ผู้ที่มีข้อพิพาทกับบริษัท รับทราบและตกลงว่า ทางเลือกของหน่วยงานที่แต่งตั้งที่เสนอโดยบริษัทจะต้องถือเป็นที่สุดและข้อสรุปสุดท้าย
      2. (ข) สถานที่อนุญาโตตุลาการจะต้องเป็นที่ฮ่องกง ณ HKIAC หรือ ณ หน่วยงานอนุญาโตตุลาการใดๆ ในประเทศใดๆ ตามที่บริษัทพิจารณาว่าเหมาะสมด้วยดุลพินิจแต่ฝ่ายเดียว ผู้ใช้ใดๆ ผู้ที่มีข้อพิพาทกับบริษัท รับทราบและตกลงว่า ทางเลือกของหน่วยงานอนุญาโตตุลาการและสถานที่ทำการอนุญาโตตุลาการที่เสนอโดยบริษัทจะต้องถือเป็นที่สุดและข้อสรุปสุดท้าย
      3. (ค) จะต้องมีอนุญาโตตุลาการเพียงหนึ่งเดียว
      4. (ง) ภาษาที่จะใช้ในกระบวนการอนุญาโตตุลาการจะต้องเป็นภาษาอังกฤษ

      ในกรณีที่มีการละเมิดเงื่อนไขเหล่านี้ของบริการผู้ค้า โดยคู่สัญญาใดๆ คู่สัญญาอีกฝ่ายจะต้องมีสิทธิในการเยียวยาทางกฎหมายและความเสมอภาคตามที่ตัดสินโดยการอนุญาโตตุลาการ
  22. สิทธิของบุคคลที่สาม
    1. เว้นแต่ถูกแสดงไว้อย่างชัดเจนในที่นี้ ไม่มีบุคคลใดนอกเหนือจากคู่สัญญาตามเงื่อนไของบริการผู้ค้าเหล่านี้จะต้องมีสิทธิใดๆ ที่จะบังคับใช้เงื่อนไขใดๆ
  23. ความไม่สอดคล้องกัน
    1. หากมีความไม่สอดคล้องระหว่างฉบับภาษาอังกฤษและฉบับภาษาอื่น ฉบับภาษาอังกฤษจะต้องมีผลเหนือกว่าเสมอ

สอบถามใด ๆ โปรดคลิกเพื่อติดต่อลูกค้าสัมพันธ์ผู้บริหารที่นี่